ประเพณีเป็งปุ๊ด ตักบาตรเที่ยงคืน..."วันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำ" "พิธีตักบาตรเที่ยงคืน" เป็นการใส่บาตรด้วยเวลาที่ผิดแผกแตกต่างไปจากการทำบุญตักบาตรโดยทั่วไป ทำให้ดูเป็นเรื่องแปลกสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น แต่สำหรับพุทธบริษัทในภาคเหนือแล้ว การตักบาตรในยามเที่ยงคืนในวัน "เป็งปุ๊ด" ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนา ที่สืบทอดปฏิบัติมาหลายร้อยปี ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน หรือพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด เป็นประเพณีของทางภาคเหนือ ในทุกปีที่มีวันขึ้น ๑๕ ค่ำที่ตรงกับวันพุธ โดยไม่เจาะจงว่าต้องอยู่ในเดือนใด พระภิกษุสามเณรในเมืองทุกรูปจะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน โดยมีความแตกต่างของการนับเวลาคือ ที่ จ.เชียงใหม่ จะตักบาตรคืนวันอังคารหลังเวลา ๐๐.๐๐ น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เข้าสู่วันพุธ ในขณะที่ จ.เชียงราย ลำปาง และแม่ฮ่องสอน จะใส่ตักบาตรในคืนวันพุธเวลา ๒๔.๐๐ น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ บางปีอาจมีครั้งเดียว หลายครั้ง หรือไม่มีเลย ก็ได้ เป็นประเพณีนิยมที่มีเฉพาะในภาคเหนือเท่านั้น สำหรับประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่เข้าใจว่าทางภาคเหนือคงรับเอามาจากพม่าอีกต่อหนึ่ง พม่ามีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล ในรอบ ๑ ปีจะขึ้นมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ ชาวพม่ามักตื่นแต่ดึก เพื่อเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุต โดยมีคติความเชื่อว่า หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วจะได้บุญใหญ่หลวง เกิดโชคลาภ และความเป็นสิริมงคลในชีวิต คติความเชื่อนี้จึงทำให้พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ พระครูพัฒนาธิมุต เจ้าอาวาสวัดอุปคุต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นวัดเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนล้านนา ที่สืบสานประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊ดมาไม่ต่ำกว่า ๒๕๐ ปี จากหลักฐานประวัติของวัดที่มีการบูรณะฟื้นฟูครั้งใหญ่ใน พ.ศ.๒๓๐๐ พบว่ามีการสืบทอดประเพณีตักบาตรเป็งปุ๊ดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าอาวาสวัดทุกยุคทุกสมัยได้จัดประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนถือปฏิบัติโดยทั่วไปในภาคเหนือ แต่พบมากใน จ.เชียงใหม่ และเชียงราย เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพม่า ในยุคที่อาณาจักรล้านนาเป็นเมืองขึ้นของพม่า ในช่วง พ.ศ.๒๑๐๑-๒๓๑๗ กระทั่งวัฒนธรรมไทยลื้อได้หล่อหลอมผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนา และวัฒนธรรมของคนไทยใหญ่ในรัฐฉาน ของพม่า ปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ ******************************************************************* เทศบาลนครเชียงรายร่วมย้อนอดีตรักษ์วันเป็งปุ๊ด จัดพิธีอัญเชิญพระอุปคุตชวนทำบุญใส่บาตรหลังเที่ยงคืน เทศบาลนครเชียงรายร่วมกับวัดมิ่งเมืองจัดงานประเพณีย้อนอดีตวันเป็งปุ๊ด เชิญร่วมพิธีอัญเชิญพระอุปคุตอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมชวนทำบุญใส่บาตรพระหลังเที่ยงคืนอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2558 นี้ ณ วัดมิ่งเมือง อ.เมือง จ.เชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เปิดเผยว่า “ในคืนที่ย่างเข้าสู่ วันพุธที่ตรงกับวันเพ็ญ 15 ค่ำ เป็นค่ำคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวง ชาวล้านนาในอดีต มีความเชื่อว่าในอดีตมี พระอรหันต์องค์หนึ่ง ชื่อพระมหาอุปคุตเป็นพระอรหันตเจ้าที่มีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลโชคลาภวาสนาได้ออกจากการเข้าฌานสมาบัติใต้สะดือทะเลในค่ำคืนย่างเข้าวันพุธซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ แปลงกายเป็นสามเณรน้อยขึ้นมาโปรดสัตว์โลก และเชื่อกันว่าหากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระมหาอุปคุต จะบังเกิดให้ ผู้นั้นเป็นผู้มีบุญมีโชคลาภวาสนาร่ำรวยเงินทอง และสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตอย่างที่สุด โดยเรียกวันดังกล่าวว่า “วันเป็งปุ๊ด” โดยเฉพาะชาวเชียงรายและคนในภาคเหนือยึดถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ซึ่งความพิเศษของวันดังกล่าวในปีหนึ่งจะมีวันเป็งปุ๊ด เพียง 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้น จึงถือได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากในการเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสำหรับตนเองและครอบครัว” และสำหรับปีนี้ถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่วันพระตรงกับวันพุธ ซึ่งวันดังกล่าวตรงกับวันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 ซึ่งเป็นวันพุธที่ตรงกับวันเพ็ญ 15 ค่ำ เทศบาลนครเชียงราย จึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์วัดมิ่งเมืองจัดงานประเพณีการทำบุญตักบาตรเป็งปุ๊ดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2558 ณ วัดมิ่งเมืองภายในเขตเทศบาลฯ” ซึ่งมีรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2558 เวลา 13.30 น.-16.00 น. - เริ่มทำพิธีอาราธนาพระอุปคุต จากแม่น้ำกก(เชิงสะพาน แม่ฟ้าหลวง) ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก อัญเชิญเข้าสู่ขบวนแห่รอบเมืองเชียงรายอย่างสวยงามอลังการ เวลา 23.39 น.ประกอบพิธีทางศาสนา - พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ร่วมรับฟังการปาฐกถาธรรมประวัติพระมหาอุปคุต พร้อมร่วมกันอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก ย่างเข้าสู่วันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 เวลา 00.01 น.(วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ วันเป็งปุ๊ด) - เริ่มพิธีอาราธนาองค์พระมหาอุปคุต พระภิกษุสงฆ์สามเณรออกเดินรับบิณฑบาต โดยเริ่มจากวัดมิ่งเมืองบนถนนบรรพปราการมุ่งตรงไปผ่านสี่แยกสะพานดำ/สี่แยกหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ไปจนถึงสี่แยกประตูสลีแล้ววกกลับในเส้นทางเดิมมายังวัดมิ่งเมือง นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เทศบาลนครเชียงราย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายร่วมทำบุญตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว พร้อมกันนี้เชิญชวนทุกท่านแต่งกายด้วยชุดขาวเพื่อร่วมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาต่อไป” แหล่งข่าว : เทศบาลนครเชียงราย