วัดศรีสุทธาวาส เดิมชาวบ้านเรียกว่า "วัดหลวงราชคฤห์ วัดใหม่ วัดราษฏร์ วัดนอก วัดกิตติวาส วัดเจดีย์สุวรรณ"
จนต่อมาพระครูยติวัตตวิมล เจ้าคณะอำเภอซึ่งเป็นเจ้าอาวาส วัดนี้ในสมัยนั้นได้ตั้งชื่อใหม่ว่า "วัดศรีสุทธาวาส"
จึงเรียกชื่อนี้มาแต่บัดนั้น
วัดศรีสุทธาวาสตั้งอยู่เลขที่ 132 หมู่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ลักษณะพื้นที่เป็นเนินเตี้ย
มีป่าไม้เบญจพรรณล้อมรอบมีพื้นที่เป็นวัดและธรณีสงฆ์ รวม 43 ไร่ 3 งาน 73 ตารางวา ความเป็นมาของการสร้างวัด
มีประวัติการสร้างอยู่ 3 สมัย จากหลักฐานแผ่นศิลาจารึก ชร.1 จารึกวิหารจันทรอาราม
สมัยแรก เริ่มก่อสร้างวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2011 โดยเจ้าหมื่นท้าวลูกหมื่นพลางเงินญาง เจ้าเมืองวังเหนือได้สร้างวิหารขึ้นชื่อว่า
สมัยแรก เริ่มก่อสร้างวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2011 โดยเจ้าหมื่นท้าวลูกหมื่นพลางเงินญาง เจ้าเมืองวังเหนือได้สร้างวิหารขึ้นชื่อว่า
"จันทรอาราม" มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์จารึกอักษรโบราณ และมีแนววิหารโบราณเป็นหลักฐานให้เห็นถึงปัจจุบัน
สมัยกลาง ประมาณ พ.ศ.2256-2286 หลังจากร้างไปหลายปีได้มีการก่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
สมัยกลาง ประมาณ พ.ศ.2256-2286 หลังจากร้างไปหลายปีได้มีการก่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งตรงกับสมัยของพญามังราย มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดกลุ่มควันลอยออกมาจากจอมปลวกแห่งหนึ่งในเวลากลางคืน
พญามังราย โปรดฯ ให้แสนณรงค์หมื่นธน ท้าวเทเวนทร์ แสนนรินทร์ ไปดูปรากฏว่าเป็นจริงจึงขุดดูพบขวดแก้ว
ได้นำไปถวายพระพญามังราย ทรงเปิดออกพบพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 8 องค์ พร้อมแก้ว-วิฑูรย์ จึงโปรดฯให้พระนางทมรา
(ลูกสะไภ้) แสนนรงค์ หมื่นธน ลงมาสร้างอาราม พระพุทธรูปองค์ใหญ่ แล้วนิมนต์ครูบาอิสระจากวัดทุ่งยั้ง มาเป็นเจ้าอาวาส
ในพ.ศ.2286 ได้สร้างต่อเติมบูรณะไปเรื่อยๆ จนเสร็จสมบูรณ์ในพ.ศ.2297 แล้วก็ร้างไปจนกระทั่ง พ.ศ.2426 พระครูอุตตมะ
ในพ.ศ.2286 ได้สร้างต่อเติมบูรณะไปเรื่อยๆ จนเสร็จสมบูรณ์ในพ.ศ.2297 แล้วก็ร้างไปจนกระทั่ง พ.ศ.2426 พระครูอุตตมะ
พร้อมพระครูยติวัตตวิมล พระยาเทพณรงค์ เจ้าเมืองเวียงป่าเป้า พระขันธเสมาหน่องส่วยโหง่งและลูกศิษย์ ร่วมกันบูรณะสร้างวัด
พระพุทธรูปในวิหาร วิหาร เจดีย์ อุโบสถ หอไตร ธรรมาสน์ และหอสรงบางส่วน
พ.ศ.2464 พระครูยติวัตตวิมล ได้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์ซึ่งเหลือแต่ฐานเป็นเจดีย์แบบพม่าขึ้นมาใหม่
พ.ศ.2464 พระครูยติวัตตวิมล ได้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์ซึ่งเหลือแต่ฐานเป็นเจดีย์แบบพม่าขึ้นมาใหม่
สร้างพระประธานในวิหาร และวิหารหลังใหม่ครอบวิหารหลังเดิมครอบพระพุทธรูปประประธานไว้ด้วย
ปัจจุบัน พ.ศ.2527-ปัจจุบัน พระครูคัมภีร์ธรรมโมภาส เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเวียง
ปัจจุบัน พ.ศ.2527-ปัจจุบัน พระครูคัมภีร์ธรรมโมภาส เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเวียง
ได้บูรณะกำแพงวัดขึ้นมาใหม่เป็นศิลาแลง ปรับปรุง และสร้างศาสนวัตถุหลายอย่าง
ปีพ.ศ.2533-2538 ได้สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ให้ใหญ่ขึ้นเป็นแบบโบสถ์วิหารทางภาคกลางครอบวิหารหลังเดิมซึ่งชำรุด
ปีพ.ศ.2533-2538 ได้สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ให้ใหญ่ขึ้นเป็นแบบโบสถ์วิหารทางภาคกลางครอบวิหารหลังเดิมซึ่งชำรุด
และครอบพระพุทธรูปพระประธานไว้ เช่นเดิม
พ.ศ.2539-2541 ได้บรูณะหอฉันท์ สร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พ.ศ.2539 กรมการศาสนาได้ประกาศให้เป็น อุทยานการศึกษาในวัด พ.ศ.2541 กรมการศานาได้ประกาศให้เป็นวัดจัดลานใจลานกีฬา พ.ศ.2542-2545 เนื่องจากอุโบสถหลังเดิมเก่าและชำรุดทรุดโทรมมาก
พ.ศ.2539-2541 ได้บรูณะหอฉันท์ สร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน พ.ศ.2539 กรมการศาสนาได้ประกาศให้เป็น อุทยานการศึกษาในวัด พ.ศ.2541 กรมการศานาได้ประกาศให้เป็นวัดจัดลานใจลานกีฬา พ.ศ.2542-2545 เนื่องจากอุโบสถหลังเดิมเก่าและชำรุดทรุดโทรมมาก
เจ้าอาวาสพร้อมคณะศรัทธาได้ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่จนสำเร็จใน พ.ศ.2545 ถ้านับอายุเริ่มการก่อสร้างวัดมาจนถึงปัจจุบัน