ตามรอย ขุนส่า ราชายาเสพติดโลก ในพิพิธภัณฑ์บ้านหินแตก หลักฐานเดียวที่เหลืออยู่บนผืนแผ่นดินไทย รวมทั้งยุทธการบ้านหินแตกที่ไทยผลักดันกองกำลังนอกดินแดนออกไปจนพ้นอธิปไตย
เสียงปืนนานาชนิดทั้งปืนกลเบา เอ็ม 60 ปืน ค.88 ค.81 จรวดอาร์พีจี ดังกึกก้องสะท้อนกลบไปทั้งขุนเขาบ้านหินแตก ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เขต 6 จำนวน 800 นาย ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ทองอุณห์เจริญสม ที่โอบล้อมฐานที่ตั้งกองกำลังขุนส่าราชายาเสพติดโลก ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 900 ชีวิต 400 ครัวเรือน ต้องอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น
เสียงการต่อสู้ห้ำหั่นกินเวลานาน2 วันเต็ม ยุทธภูมิบ้านหินแตกจึงสิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของทางการไทยที่สามารถผลักดันกองกำลังนอกดินแดนพ้นอธิปไตยของไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ จับกุมกองกำลังได้บางส่วนและยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ได้รวมน้ำหนักกว่า 5 ตัน ทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนยิงจรวดเอ็ม 79 ระเบิดมือเอ็ม 26 และกระสุนปืนนับหมื่นนัด แต่ไร้วี่แววของขุนส่าที่หลบหนีออกจากฐานที่มั่นไปก่อนการกวาดล้างจะเกิดขึ้น ไปตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองกาน ประเทศพม่า
นั่นคือภาพยุทธภูมิบ้านหินแตกเมื่อวันที่21 มกราคม 2525 หรือเมื่อ 25 ปีก่อนหน้านี้ ปัจจุบันขุนส่าพร้อมสมุนกว่า 2 หมื่นชีวิต ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทางการพม่า ยุติบทบาทอันลือเลื่องเมื่อครั้งอดีตให้เหลืออยู่แต่ในความทรงจำและบันทึกที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลกใบนี้ หนึ่งในนั้นคือพิพิธภัณฑ์บ้านหินแตก ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย คม ชัด ลึก จะพาไปพบกับตัวตนของขุนส่าตั้งแต่เกิด กระทั่งเข้ามามีบทบาทอยู่ในแถวหน้าในฐานะราชายาเสพติดโลกว่า มีความเป็นมาอย่างไร
พิพิธภัณฑ์บ้านหินแตก หรือจะพูดให้ถูกคือฐานที่ตั้งของกองกำลังขุนส่าในอดีต มาถึงวันนี้ยังหลงเหลือร่องรอยแห่งการต่อสู้ที่ยาวนาน แข็งแกร่ง มั่นคง และมีมนต์ขลัง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้ ที่ปรากฏอยู่ตามโรงเรือนฝึกทหาร โรงครัว คุกดิน สถานที่ประชุมก่อนปฏิบัติการแต่ละครั้ง รวมไปถึงบ้านพักของขุนส่าบนเนื้อที่ 12 ไร่
ณสถานที่แห่งนี้เองเมื่อครั้งอดีตจะมีกองกำลังของขุนส่าประจำอยู่ 2,000 คน ทุกๆ 6 เดือนจะมีกองกำลังผลัดใหม่จากพม่าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาฝึกยุทธวิธี ก่อนจะกลับไปปฏิบัติการตามฐานที่มั่นต่างๆ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยผู้คน มาบัดนี้กลับว่างเปล่า มีเพียง เครือเดือน ตุงคำ นักวิจัยท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาดอยตุงอยู่ดูแลในฐานะผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขุนส่าเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้